กระแส T-Beauty ที่กำลังมาแรง

ถ้าคุณทำงานในวงการความงาม โดยเฉพาะแบรนด์ T-Beauty จะจับสัญญาณเชิงบวกได้เลยว่าช่วงนี้กระแสเครื่องสำอางจากแบรนด์ไทยกำลังมาแรงสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยที่หันมาใช้แบรนด์ในบ้านเรามากขึ้น หรือชาวต่างชาติที่นิยมมาใช้แบรนด์ไทยพร้อมรีวิวปังๆ จนไวรัล

ท่ามกลางกระแสที่ดูดีมีแรงแข่งขันสูง ยังมีช่องว่างในตลาดที่หลายแบรนด์มักมองข้าม แต่กลับมีความสำคัญมากในการสร้างความแตกต่างและความยั่งยืนให้กับแบรนด์ Thai Beauty

และที่สำคัญที่สุด T-Beauty ไม่ใช่แค่ขายดีในประเทศ แต่ต้องพร้อมส่งออกสู่ตลาดโลก ซึ่งหมายถึงต้องมีมาตรฐานที่เหนือกว่า ทั้งประสิทธิภาพ คุณภาพ และความเข้าใจกฎระเบียบของแต่ละประเทศอย่างลึกซึ้ง ไม่งั้นเสี่ยงโดนตีกลับโดยไม่รู้ตัว

วันนี้เรามาดูกันว่าช่องว่างเหล่านั้นคืออะไรบ้าง

  1. Botanical + Clinical Proof = อนาคตของ T-Beauty

สมุนไพรไทยไม่ใช่แค่ “ธรรมชาติ” และจะไม่ถูกเล่าแบบโบราณอีกต่อไป การวิจัยและพัฒนาต้องมาพร้อมข้อมูลที่ชัดเจน ถ้าไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ เราก็พลาดโอกาสในตลาดโลก

ทำไมสำคัญ: ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการมากกว่าคำว่า “ธรรมชาติ” พวกเขาต้องการเห็นข้อมูลวิจัย ผลการทดสอบ และหลักฐานทางคลินิกที่ชัดเจนว่าสมุนไพรไทยสามารถแก้ปัญหาผิวได้จริง

ช่องว่างสำคัญ: ต่างประเทศไม่รู้จักสมุนไพรไทย ถ้าไม่มีงานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารนานาชาติ หรือการทดสอบทางคลินิกที่ได้มาตรฐานสากล การส่งออกจะทำได้ยาก เพราะหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศ เช่น FDA ของสหรัฐอเมริกา หรือ EU Cosmetics Regulation จะต้องการเห็นข้อมูลความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ชัดเจน

  1. Pain Point ของผิวไทยยังเล่าไม่ชัด

แดดแรง ฝุ่น PM2.5 ความชื้นสูง คือจุดเจ็บจริงของคนไทย Content ต้องเล่าถึงสารสำคัญที่ตอบโจทย์ตรงนี้ เพราะผิวที่ต้องเจอสภาพอากาศแบบไทยๆ คนไทยเราเข้าใจได้ดีที่สุด

ทำไมสำคัญ: หลายแบรนด์พูดถึงส่วนผสมโดยทั่วไป แต่ลืมเชื่อมโยงกับปัญหาจริงของผิวคนไทย การสื่อสารที่ตรงจุดจะสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นได้มากกว่า

โอกาสในการส่งออก: ปัญหาผิวแบบนี้ไม่ใช่แค่คนไทย แต่รวมถึงตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด ตั้งแต่เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ที่มีสภาพอากาศร้อนชื้นเหมือนกัน ถ้าสูตรของเราแก้ปัญหาตรงนี้ได้ดี ก็สามารถขยายตลาดได้ง่าย แต่ต้องแน่ใจว่าสูตรผ่านการทดสอบความเสถียรในสภาพอากาศร้อนชื้นจริงๆ และเป็นไปตาม Stability Testing Requirements ของประเทศเป้าหมาย

  1. Texture คือตัวขับเคลื่อนนวัตกรรม

เนื้อสัมผัสที่ทำให้ผู้ใช้ต้องร้องว้าว คือ อาวุธลับของ T-Beauty ถ้า R&D มองข้ามเรื่องนี้ จะเสียโอกาสดึงดูดใจลูกค้า

ทำไมสำคัญ: ประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์เริ่มตั้งแต่วินาทีแรกที่สัมผัสเนื้อครีม ถ้าเนื้อสัมผัสไม่ดี ไม่ว่าส่วนผสมจะดีแค่ไหน ลูกค้าก็อาจไม่กลับมาซื้อซ้ำ

  1. จาก Natural สู่ Sensorial

กลิ่น สี และความรู้สึกตอนใช้ผลิตภัณฑ์ สำคัญกว่าการอวดว่ามีส่วนผสมธรรมชาติเพียงอย่างเดียว T-Beauty ต้องเน้นที่ประสบการณ์การใช้เป็นหลัก

ทำไมสำคัญ: ผู้บริโภคต้องการมากกว่าประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ พวกเขาต้องการ “ประสบการณ์” ที่สวยงาม น่าใช้ และสร้างความรู้สึกดีทุกครั้งที่ใช้

ข้อควรระวังในการส่งออก: สารให้กลิ่นและสีที่ใช้ต้องผ่านการอนุมัติในแต่ละประเทศ บางประเทศ เช่น EU มีรายการสารห้ามใช้ที่เข้มงวดมาก หรือจีนที่ต้องขึ้นทะเบียนสารแต่ละตัวอย่างละเอียด ต้องตรวจสอบให้ดีว่า Fragrance และ Colorants ที่เราใช้อยู่ในรายการอนุญาตของทุกตลาดที่เราจะส่งออก

  1. มาตรฐานประสิทธิภาพต้องเทียบระดับสากล

ถ้าสารสกัดไทยเทียบผลลัพธ์กับ Niacinamide หรือ Retinol ไม่ได้ ก็ขายยาก ต้องรู้ว่าจะพิสูจน์ยังไงให้ตลาดเชื่อถือ

ทำไมสำคัญ: ตลาดโลกมีมาตรฐานสูง การแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลกต้องพิสูจน์ว่าสารสกัดไทยให้ผลลัพธ์ได้จริงและเทียบเท่าหรือดีกว่าสารสำคัญที่เป็นที่รู้จัก

กุญแจสู่การส่งออก: การมี Clinical Study หรือ Efficacy Testing ที่ได้มาตรฐานสากล ไม่ใช่แค่ทำให้ขายง่าย แต่ยังช่วยให้ผ่านกระบวนการขึ้นทะเบียนในต่างประเทศได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะตลาดที่มีกฎระเบียบเข้มงวด เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย ที่ต้องการเห็น Safety Assessment และ Product Information File (PIF) ที่ครบถ้วน

  1. ความต้องการตลาด: จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จีนยังเป็นตลาดหลัก แต่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือโซนเติบโตต่อไป ต้องเตรียมสูตรที่ขยายได้และเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น

ทำไมสำคัญ: การเข้าใจตลาดใหม่และเตรียมพร้อมล่วงหน้าจะช่วยให้แบรนด์สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในตลาดที่มีสภาพอากาศและปัญหาผิวใกล้เคียงกับไทย

กลยุทธ์การส่งออกที่ชาญฉลาด:

  • จีน: ต้องศึกษา NMPA Registration อย่างละเอียด เพราะใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง แต่เป็นตลาดใหญ่ที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า ต้องเตรียม Animal Testing Data ด้วย (แม้ว่ากฎจะเริ่มผ่อนปรนในบางกรณี)
  • เอเชียตะวันออกเฉียงใต้: กฎระเบียบง่ายกว่า โดยเฉพาะถ้าผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐาน ASEAN Cosmetic Directive (ACD) ก็สามารถจดทะเบียนได้รวดเร็วในหลายประเทศ
  • สหรัฐและยุโรป: ถ้าเล็งตลาดเหล่านี้ ต้องมั่นใจว่าทุกส่วนผสมผ่าน INCI Nomenclature และไม่มีสารต้องห้ามตาม EU Banned Substances List ซึ่งมีมากกว่า 1,300 สาร
  1. Clean Beauty = ความไว้วางใจ

Clean Beauty ไม่ใช่แค่รายการสารต้องห้าม แต่คือการสื่อสารความปลอดภัย ต้องเลือกสารสำคัญที่ตรวจสอบที่มาได้และโปร่งใส

ทำไมสำคัญ: ความโปร่งใสในส่วนผสมและกระบวนการผลิตสร้างความไว้วางใจ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า

ปัจจัยสำคัญในการส่งออก: Clean Beauty ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นข้อกำหนดบังคับในหลายตลาด ต้องมี:

  • Ingredient Traceability: ตรวจสอบที่มาของวัตถุดิบได้ทั้งหมด
  • Safety Data Sheets (SDS): สำหรับทุกส่วนผสม
  • Good Manufacturing Practice (GMP) Certification: โรงงานต้องได้มาตรฐาน GMP หรือ ISO 22716
  • Preservative Challenge Test: พิสูจน์ว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยจากการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์

ถ้าขาดเรื่องเหล่านี้ แม้จะขายดีในไทย แต่ก็อาจถูกปฏิเสธการเข้าตลาดต่างประเทศได้

  1. เทรนด์สูตรผสมผสาน

สูตรที่รวมสารสำคัญที่มีหลักวิทยาศาสตร์ กับสมุนไพรไทย คือเอกลักษณ์ของ T-Beauty ใครจับ combo นี้ได้ ก็สร้างความแตกต่างได้ทันที

ทำไมสำคัญ: การผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาไทยกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ สร้างจุดขายที่ไม่มีใครเหมือน และเป็นเอกลักษณ์ที่แท้จริงของแบรนด์ไทย

โอกาสและความท้าทาย: สูตรผสมผสานนี้เป็นจุดแข็ง แต่ต้องระวังเรื่อง Stability และ Compatibility ของส่วนผสม โดยเฉพาะเมื่อต้องส่งออกไปยังประเทศที่มีสภาพอากาศต่างกัน ต้องมี Stability Testing ในหลายเงื่อนไข (อุณหภูมิสูง/ต่ำ ความชื้นต่างกัน) และต้องแน่ใจว่าทุกส่วนผสมสามารถใช้ร่วมกันได้ตามกฎระเบียบของแต่ละประเทศ

  1. บรรจุภัณฑ์ + สูตร ต้องเล่าเรื่องร่วมกัน

บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน บวกกับสูตรที่เล่าเรื่องราวสมุนไพร ช่วยเพิ่มมูลค่าให้แบรนด์ ต้องพัฒนาสูตรให้สอดคล้องกับเรื่องเล่าของแบรนด์

ทำไมสำคัญ: ผู้บริโภคยุคใหม่ซื้อ “เรื่องราว” และ “คุณค่า” มากกว่าซื้อแค่ผลิตภัณฑ์ การเล่าเรื่องที่สอดคล้องกันตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ถึงสูตรสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่สมบูรณ์

ข้อกำหนดสำคัญในการส่งออก:

  • Labeling Requirements: แต่ละประเทศมีข้อกำหนดการติดฉลากต่างกัน ต้องระบุส่วนผสม คำเตือน วิธีใช้ และข้อมูลผู้ผลิตตามกฎหมายท้องถิ่น
  • Language Requirements: บางประเทศต้องการฉลากเป็นภาษาท้องถิ่น เช่น จีนต้องมีฉลากภาษาจีน
  • Claims Substantiation: การอ้างสรรพคุณต้องมีหลักฐานรองรับ ไม่งั้นอาจถูกดำเนินคดีจากหน่วยงานกำกับดูแล
  • Packaging Material Safety: วัสดุบรรจุภัณฑ์ต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัย โดยเฉพาะถ้าสัมผัสโดยตรงกับผลิตภัณฑ์
  1. T-Beauty = ความมั่นใจทางวัฒนธรรม

อย่าไปเลียนแบบ K-Beauty หรือ J-Beauty ความสำเร็จอยู่ที่การสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวผ่านสมุนไพรไทย ที่มีหลักวิทยาศาสตร์รองรับ

ทำไมสำคัญ: ความแตกต่างคือกุญแจสำคัญในตลาดโลก T-Beauty ต้องภูมิใจในเอกลักษณ์ของตัวเอง ไม่ใช่เป็นเพียงเวอร์ชันเลียนแบบของแบรนด์อื่น

มาตรฐานการส่งออกที่ต้องเตรียม:

  • ลงทะเบียนเครื่องหมายการค้า (Trademark): ในทุกประเทศที่จะขาย เพื่อปกป้องแบรนด์
  • Intellectual Property (IP) Protection: ถ้ามีสูตรหรือนวัตกรรมพิเศษ ควรจดสิทธิบัตรหรือความลับทางการค้า
  • Regulatory Compliance: เตรียมเอกสารครบถ้วนสำหรับแต่ละตลาด ไม่ว่าจะเป็น:
    • Product Safety Assessment (ยุโรป)
    • FDA Registration (สหรัฐฯ)
    • NMPA Notification/Registration (จีน)
    • ASEAN Cosmetic Notification (อาเซียน)
    • TGA Registration (ออสเตรเลีย)

สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง:

  • การอ้างสรรพคุณเกินจริงที่ไม่มีหลักฐานรองรับ
  • การใช้สารต้องห้ามในประเทศเป้าหมาย
  • การละเลยเรื่อง Heavy Metal Testing (ตะกั่ว ปรอท สารหนู)
  • การขาดข้อมูล Allergen Information
  • การไม่มี Batch Tracking System

สรุป

ช่องว่างทั้ง 10 ข้อนี้คือโอกาสสำหรับนักการตลาดและเจ้าของแบรนด์ T-Beauty ในการสร้างความแตกต่างและความยั่งยืน ไม่ใช่แค่การขายผลิตภัณฑ์ แต่คือการสร้าง “ประสบการณ์” และ “เรื่องราว” ที่ผู้บริโภคจดจำได้

T-Beauty ไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วคราว แต่คือการยกระดับภูมิปัญญาไทยสู่มาตรฐานสากล ด้วยวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และความมั่นใจในตัวตนทางวัฒนธรรม

และที่สำคัญที่สุด คือความพร้อมในการแข่งขันในเวทีโลก ซึ่งต้องการมากกว่าแค่สูตรดี ต้องมีคุณภาพระดับสากล ประสิทธิภาพที่พิสูจน์ได้ และความเข้าใจกฎระเบียบของแต่ละประเทศอย่างลึกซึ้ง

อย่าปล่อยให้โอกาสทองในตลาดโลกหลุดลอยไป เพียงเพราะขาดความรู้เรื่องกฎหมายหรือมาตรฐานการส่งออก เตรียมความพร้อมตั้งแต่วันนี้ เพื่อที่ T-Beauty ของคุณจะได้ไปไกลถึงตลาดโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน

คุณเห็นด้วยกับข้อไหนมากที่สุด หรือมีมุมมองเพิ่มเติมอย่างไร?
เชิญแชร์ความคิดเห็นของคุณได้เลย

Tags: T-Beauty, Thai Beauty, Beauty Marketing, สมุนไพรไทย, เครื่องสำอางไทย, Clean Beauty, Beauty Trends, Marketing Strategy, Brand Strategy, Thai Cosmetics, Beauty Innovation, Beauty Business, Export Strategy, Cosmetic Regulations, International Markets

คำถามที่พบบ่อย (FAQ): สรุปกฎระเบียบเครื่องสำอางที่คุณต้องรู้

เพื่อให้ผู้ประกอบการและผู้สนใจเข้าใจภาพรวมของมาตรฐานและการกำกับดูแลเครื่องสำอางในตลาดต่างประเทศได้ง่ายขึ้น เราได้รวบรวมคำถามสำคัญที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานระดับภูมิภาคและระดับสากลที่จำเป็นต่อธุรกิจของคุณ:

  1. NMPA Registration คืออะไร?
    NMPA Registration คือ กระบวนการขออนุญาตอย่างเป็นทางการเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพ เช่น ยา เครื่องมือแพทย์ และเครื่องสำอาง ในประเทศจีน โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบคือ National Medical Products Administration (NMPA) ซึ่งเทียบได้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของไทย

NMPA มีหน้าที่กำกับดูแลให้ผลิตภัณฑ์ที่วางขายในจีนมีความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิภาพตามที่กล่าวอ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางนำเข้า ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎหมายหลักฉบับใหม่ที่ชื่อว่า Cosmetic Supervision and Administration Regulation (CSAR)

การกำกับดูแลเครื่องสำอางโดย NMPA

ภายใต้ระเบียบ CSAR เครื่องสำอางจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ซึ่งกำหนดวิธีการขออนุญาตที่แตกต่างกัน:

  1. เครื่องสำอางพิเศษ (Special Cosmetics):
    • ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่มีฟังก์ชันพิเศษ เช่น สำหรับการย้อมผม ดัดผม ลดเลือนจุดด่างดำ/ทำให้ผิวขาว กันแดด และป้องกันผมร่วง
    • ต้องผ่านกระบวนการ การขึ้นทะเบียน (Registration) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เข้มงวด ต้องมีการยื่นเอกสารอย่างละเอียด และผ่านการตรวจสอบทางเทคนิค (Technical Review) โดย NMPA โดยตรง และจะได้รับใบอนุญาตที่มีอายุ 5 ปี
  2. เครื่องสำอางทั่วไป (General Cosmetics):
    • ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทั่วไปที่ไม่ใช่เครื่องสำอางพิเศษ เช่น สกินแคร์ทั่วไป ลิปสติก แชมพู และยาสีฟัน
    • ต้องผ่านกระบวนการ การจดแจ้ง (Filing/Notification) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ง่ายกว่าการขึ้นทะเบียน โดยจะมีการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น และจะได้รับใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (E-certificate)

ข้อกำหนดสำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์นำเข้า

ผู้ประกอบการต่างชาติที่ต้องการนำเข้าและจำหน่ายเครื่องสำอางในจีน (นอกเหนือจากช่องทางอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน) จำเป็นต้องแต่งตั้ง Chinese Responsible Person (CRP) ซึ่งเป็นนิติบุคคลในจีนที่ทำหน้าที่รับผิดชอบทางกฎหมายด้านคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด และเป็นผู้ดำเนินการยื่นเอกสารกับ NMPA แทนผู้ผลิตต่างประเทศ ซึ่งกระบวนการนี้ต้องการเอกสารรับรองที่ซับซ้อน รวมถึงรายงานผลการทดสอบที่ดำเนินการโดยห้องปฏิบัติการที่ได้รับการยอมรับในประเทศจีนเท่านั้น

  1. ASEAN Cosmetic Directive (ACD) คืออะไร?

ACD คือ บทบัญญัติเครื่องสำอางอาเซียน เป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่าง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อ ประสานกฎระเบียบเครื่องสำอางให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั่วทั้งภูมิภาค

  • เป้าหมายหลัก: เพื่อลดอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (NTBs) ทำให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรีและรวดเร็วขึ้นในกลุ่มประเทศสมาชิก
  • หลักการสำคัญ: เปลี่ยนจากการขึ้นทะเบียนที่ซับซ้อนเป็นการ จดแจ้ง (Notification) แต่เน้นความรับผิดชอบของผู้ประกอบการ (Responsible Person) และการควบคุมหลังออกสู่ตลาด (Post-Market Surveillance)
  1. ISO 22716 คืออะไร?

ISO 22716 คือ มาตรฐานสากลว่าด้วยแนวทางปฏิบัติที่ดีในการผลิตเครื่องสำอาง (Good Manufacturing Practices – GMP for Cosmetics)

  • ความสำคัญ: เป็นมาตรฐานสากลที่กำหนดหลักเกณฑ์และระบบการจัดการคุณภาพสำหรับการผลิต การควบคุม การจัดเก็บ และการขนส่งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
  • การบังคับใช้: เป็นมาตรฐานที่ใช้บังคับในสหภาพยุโรป (EU) และเป็นมาตรฐานอ้างอิงหลักสำหรับแนวทาง GMP ของอาเซียน (ASEAN GMP) การมี ISO 22716 จึงช่วยให้ผลิตภัณฑ์สามารถเข้าสู่ตลาดสำคัญทั่วโลกได้อย่างมั่นใจ
  1. TGA Registration คืออะไร และเกี่ยวข้องกับเครื่องสำอางอย่างไร?

TGA Registration คือ กระบวนการขึ้นทะเบียนหรือจดแจ้งผลิตภัณฑ์กับ Therapeutic Goods Administration (TGA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและยาของ ประเทศออสเตรเลีย

  • บทบาทหลัก: TGA กำกับดูแล Therapeutic Goods (สินค้าเพื่อการบำบัดรักษาโรค) เช่น ยา วัคซีน และเครื่องมือแพทย์ โดยผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการประเมินจะถูกบรรจุในบัญชี ARTG (Australian Register of Therapeutic Goods)
  • ความเกี่ยวข้องกับเครื่องสำอาง: เครื่องสำอางทั่วไปไม่จำเป็นต้องขึ้นทะเบียน TGA แต่หากผลิตภัณฑ์ของคุณมีการ กล่าวอ้างสรรพคุณทางการแพทย์ (Therapeutic Claims) เช่น การรักษาสิว การป้องกันโรค หรือเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดหลัก (Primary Sunscreen) จะถูกจัดเป็น “Therapeutic Goods” ทันที และต้องเข้าสู่กระบวนการ TGA Registration เพื่อให้จำหน่ายในออสเตรเลียได้อย่างถูกกฎหมาย
หมวดหมู่

ป้ายกำกับ

Easy Concept (207) Easy product (79) Food & Nutrition (48) K-Beauty (12) กันแดด กันมลภาวะ (8) คุมมัน กระชับรูขุมขน (3) ซิลิโคน (Silicones) (4) ดูแลช่องปาก (6) ดูแลหนังศีรษะ ลดมัน คัน รังแค (14) บำรุงเส้นผม ลดการหลุดร่วง (22) ปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ (16) ปลอบประโลม ลดอักเสบระคายเคือง (9) ผิวขาวใส ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ (27) ผิวชุ่มชื้น เสริมปราการผิว (43) ผิวแพ้ง่าย แดง คัน อักเสบ (5) มาสก์ (8) ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม (Sustainable) (10) รอบดวงตา ลดริ้วรอยหมองคล้ำ (5) ริมฝีปากชุ่มชื้น อวบอิ่ม (4) ลดริ้วรอย ยกกระชับผิว (45) ลดสิว-รอยแดงรอยดำ คุมมัน รูขุมขนกระชับ (27) ลดแพ้ แดง คัน อักเสบระคายเคือง (22) ลีฟออน / แฮร์ออยล์ (3) สารกันแดด (UV Filters) (12) สารขึ้นเนื้อ (Emulsifiers) (16) สารชำระล้าง (Surfactants&Conditioners) (16) สารสกัดจากธรรมชาติ (23) สารออกฤทธิ์ (Actives) (102) สารเพิ่มความข้น (Thickeners) (13) สารให้ความนุ่มลื่น (Emollients) (6) สารให้เนื้อมุก (Pearlizers) (3) สูตรทำความสะอาด / อาบน้ำ / สบู่ (13) สูตรสเปรย์ (4) สูตรเมคอัพแต่งหน้า (6) ออร์แกนิค / ECOCERT COSMOS (13) เทคโนโลยี / นวัตกรรม / สิทธิบัตร (13) เนื้อครีม (13) เนื้อออยล์ / บาล์ม (3) เนื้อเจล / เซรั่ม (15) เนื้อโลชั่น / น้ำนม (6) เมคอัพ/เครื่องสำอาง (Makeup) (3) เส้นผมและหนังศีรษะ (6) แชมพู / คอนดิชันเนอร์ / ทรีทเมนต์ (14) โพลิเมอร์ (Polymers) (4) ได้รับรางวัล (15)